Genting Club แทงบอลออนไลน์
''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด ที่ไร้
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงฟอร์มแก่งหลังเปิดบ้านคว้าชัยเหนือ กาลาตาซาราย 4-1
แม้เกมนี้จะต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่นาทีที่
27 หลัง เซร์คิโอ รามอส โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในศึกฟุตบอลยูฟ่า
แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี เมื่อวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน
ที่ผ่านมา ที่สนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด,
สเปน) นาทีที่ 37 เรอัล มาดริดที่ผู้เล่นน้อยกว่ามาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่
เปเป้ ไปโดน เฟลิเป้ เมโล่ ทำฟาวล์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นฟรีคิก ก่อนที่ แกเร็ธ เบล รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเลี้ยวข้ามกำแพงแล้วฮุกตกลงอย่างรวดเร็วผลุบ
เข้าประตูไปอย่างสวยงามให้ราชันชุดขาวนำก่อน 1-0 ทว่าดีใจได้แค่นาทีเดียว
ทีมเยือนตามตีเสมอสำเร็จ เมื่อ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา พลิกตัวจ่ายด้วยขวาไซด์ก้อยเข้าไปในกรอบเขตโทษให้กับ
อูมุต บูลุต วิ่งสอดมาแปด้วยขวาเสียบเสาแรกเข้าไปให้กาลาตาซารายตามมาเป็น 1-1
และเป็นประตูที่ 3 ของบูลุตจากการลงเล่น 5
นัดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 6 นาที เรอัล มาดริด ที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่ามาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย เปิดไปเสาแรกให้ อัลบาโร่ อาร์เบลัว
ฟูลแบ็กสอดขึ้นมาตวัดยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไป และเป็นการทำประตูได้ครั้งแรกของเจ้าตัวในรอบสามปีด้วย
นาทีที่ 63 เมื่อ อัลบาโร่ อาร์เบลัว ที่เติมเกมรุกขึ้นมาสูงจ่ายออกขวาให้กับ
อีสโก้ หักกลับมาให้ อาร์เบลัว ผ่านเข้ากลางให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย จับไว้หนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้ายเข้าไปให้
ราชันชุดขาว นำห่าง 3-1 นาทีที่ 81 ราชันชุดขาว
มาได้ประตูย้ำชัยจากจังหวะที่ อีสโก้ ลากเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ เรอัล มาดริด
นำห่างเป็น 4-1 เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม
เรอัล มาดริด ที่เหลือแค่ 10 คนยังแกร่งพอเปิดบ้านเอาชนะ
กาลาตาซาราย ไปได้ 4-1 เก็บสามแต้มพร้อมกับคว้าแชมป์กลุ่ม บี
ตบเท้าเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แล้ว
Genting Club แทงบอลออนไลน์ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม ดี วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2556 แมนเชสเตอร์
ซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ วิคตอเรีย พิลเซ่น 4
ประตูต่อ 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบไปเรียบร้อย
นัดนี้เปิดบ้านเจอกับ วิคตอเรีย พิลเซ่น ที่ตกรอบไปเป็นที่แน่นอนแล้วเช่นกัน ทำให้ทั้งสองทีมมีการหมุนเวียนทีมบางตำแหน่ง
เจ้าถิ่นนำโดย เจมส์ มิลเนอร์, เซร์คิโอ อเกวโร่
"กุน", ซามีร์ นาสรี่ และ
เอดิน เชโก้ ด้านทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ ดาเนี่ยล โคลาร์ กับ สตานิสลาฟ เทชล์ นาทีที่
33 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้จุดโทษจากการที่ อเกวโร่
เปิดบอลไปโดนแขน ฟรานติเซ็ค ราจ์โตรัล ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกแฮนด์บอลทันที
และเป็น อเกวโร่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ขึ้นนำ 1-0 อย่างไรก็ตาม
ผู้มาเยือนตามเจ๊าได้สำเร็จก่อนจบครึ่งแรก 2 นาที
จากจังหวะที่ โคลาร์ ไหลให้ โทมัส โฮราว่า ซัดด้วยขวาบริเวณหัวกระโหลก บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมจึงเจ๊ากันไปก่อน 1-1 ผ่านมาถึงนาทีที่ 62 นาสรี่ เปิดให้ แฟร์นานดินโญ่
เทกตัวโหม่ง ทว่า โคซาชิค ยังเซฟเอาไว้ได้ ลูกทีมของ เปเยกรินี่ มาขึ้นนำเป็น 2-1
ในอีก 3 นาทีต่อมา เมื่อ นาบาส ครอสจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้
นาสรี่ ยิงแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดสวย ทีมเยือนตามตีเสมออีกครั้ง 2-2
นาทีที่ 69 หนนี้ โคลาร์ ทำชิ่งเข้าเขตโทษให้
เทชล์ ซัดด้วยขวาผ่านมือ โจ ฮาร์ท ตุงตาข่าย เกมค่อนข้างเปิด แมนฯ ซิตี้ มานำเป็น 3-2
ในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ นาบาส หลุดขึ้นทางขวา
ก่อนปาดเรียดไปเสาสองให้ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง แปเข้าไปง่ายๆ นาทีที่
89 เจ้าถิ่นมาได้ประตูหนีห่างจากจังหวะที่ อเล็กซานดาร์
โคลารอฟ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปหน้าประตู เอดิน เชโก้ ขึ้นโขกเต็มหัวส่งบอลตุงตาข่าย
แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 4-2 ช่วงเวลาที่เหลือ พิลเซ่น
ยังพยายามรุกหวังทวงคืนให้ได้ แต่แนวรับเจ้าบ้านไม่พลาดแล้ว จบเกม แมนฯ ซิตี้
เอาชนะ พิลเซ่น ไปได้ 4-2 Genting Club พนันกีฬาออนไลน์ และ แทงบอลออนไลน์ที่คุณต้องเล่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น